ศึกษาดูงาน

ศึกษาดูงาน
ประทับใจสุดๆ

วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ใบงานที่ 14

Blog and GotoKnow
ข้อเด่นของ blog
1.ทำให้ทันต่อเหตุการณ์ในโลกปัจจุบัน เพราะข่าวสารความรู้ มาจากผู้คนมากมาย(ทั่วโลก) และมักจะเปลี่ยนแปลงได้ทันกับเหตุการณ์ปัจจุบันเสมอ
2.เป็นแหล่งความรู้ใหม่ๆ ที่ถูกต้องและชัดเจน จากผู้มีความรู้เฉพาะด้านๆ นั้น เนื่องจากผู้เขียน Blog มักจะเขียนถึงเรื่องที่ตัวเองถนัด ชอบ และมีความรู้ลึกในเรื่องนั้นๆ การค้นหาข้อมูลเฉพาะด้านใน Blog ต่างๆ จึง---4.ทำให้เราค้นพบความรู้ และผู้มีความรู้ความชำนาญในด้านต่าง ๆ ได้รวดเร็วขึ้น
3. เป็นสื่อที่ใช้ในการแสดงความคิดเห็น ความรู้สึกของผู้เขียนเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เพื่อเสนอให้ผู้คน สาธารณะได้รับรู้
4.เป็นเครื่องมือช่วยในด้ารธุรกิจ เช่น การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การเสนอข่าวสารความเคลื่อนไหวขององค์กร การเสนอตัวอย่างสินค้า การขายสินค้า และการทำการตลาดออนไลน์ เป็นต้น
ข้อด้อยของ blog
1. ผู้ให้บริการบล็อก ไม่สามารถกลั่นกรองเนื้อหาได้ 100% เว้นแต่จะสร้างระบบกรองคำหยาบ คำต้องห้ามไว้เพื่อให้มีการตรวจทานก่อนเผยแพร่ อาจมีความเสี่ยงเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายไปด้วยหากมีบล็อกเกอร์โพสข้อความ รูปภาพ ไม่เหมาะสมแล้วมีการฟ้องร้องขึ้นมา
2. บล็อกเกอร์มีอิสระในการนำเสนอ โดยไม่ต้องมีการตรวจสอบจากใครก่อน อาจโพสเรื่องที่ไม่เหมาะสม เรื่องที่หมิ่นเหม่ หรือ เข้าข่ายผิดกฎหมาย ผิดประเพณีและศีลธรรมอันดีได้ จึงต้องมีกติกาให้ตัวเอง หรือใช้จริยธรรมของแต่บุคคล ความมีเหตุมีผล ความระมัดระวัง รอบคอบ ของบล็อกเกอร์มากำกับไว้เอง
3.ความน่าเชื่อถือของข้อมูลขึ้นกับความน่าเชื่อถือของบล็อกเกอร์ มากกว่าตัวข้อมูลเอง หากเกิดความผิดพลาดใดๆ ผู้ที่นำข้อมูลไปใช้อ้างอิง อาจประสบปัญหาได้
4. ในทางปฏิบัติ ผู้ให้บริการบล็อก ไม่สามารถบังคับหรือกำหนดแนวทางให้บล็อกเกอร์นำเสนอได้ แม้จะโปรโมทให้ oknation เป็นสังคมของ CJ Citizen Jouranalist แต่ก็เป็นที่ยอมรับกันว่า จะไม่สามารถอยู่ได้หากไม่มีบล็อกเกอร์ที่ทำบล็อกในแนวอื่น ซึ่งเปรียบเสมือนมีคอมลัมน์หลากหลายในหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับ จึงน่าจะถือว่า เป็นเรื่องของการสร้างชุมชนที่ดีร่วมกัน
5. เนื้อหาที่อยู่ในบล็อก หากไม่ใช่ผลงานวิจัย หรือ วิทยานิพนธ์ ที่ทำตามหลักวิชาการ หรือ ตัวบทกฎหมาย ก็อาจมีความน่าเชื่อถือน้อยถึงน้อยมาก

ความแตกต่างระหว่าง blogspot และ gotokhow
GotoKnow.org สามารถจัดการบล็อกได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น การสร้าง แก้ไข ลบ บล็อก หรือ การสร้าง แก้ไข ลบ บันทึก หรือ การลบข้อคิดเห็นเป็นต้น อีกทั้งเขียนบันทึกได้ง่ายเหมือนใช้ไมโครซอฟท์เวิร์ดแล้วนั้น ระบบบล็อก GotoKnow.org ยังอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ได้อีกมากมาย อาทิ สามารถสร้างบล็อกหรือชุมชนบล็อกได้มากกว่าหนึ่งแห่ง, บล็อกแต่ละบล็อกสามารถเป็นสมาชิกชุมชนบล็อกได้มากกว่าหนึ่งแห่ง, เผยแพร่ความรู้ฉับไวด้วยเทคโนโลยี RSS และมีการปรับปรุงพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง และมีความปลอดภัยสูงฯลฯ
ทั้งนี้ GotoKnow.org ย่อมาจาก The Gateway of Thailand's Online Knowledge Management เป็นระบบ บล็อก(Blog) เพื่อการจัดการความรู้แบบฝังลึก โดยเน้นการบันทึกในรูปแบบของแต่ละบุคคลเพื่อแสดงความคิด ความรู้ ประสบการณ์ เทคนิคการทำงาน และร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้อื่นผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ประโยชน์ของการบันทึกความรู้ลงบล็อกเป็นเครื่องมือในการสร้างความรู้ เผยแพร่ความรู้ แลกเปลี่ยนความรู้ เป็นเครื่องมือค้นหาผู้ชำนาญการ และสามารถแยกแยะประเภทของความรู้และสร้างความสัมพันธ์ของความรู้ โดยเจ้าของบล็อกสามารถจัดกลุ่มบันทึกแต่ละบันทึกด้วยคำหลักซึ่งแทนแก่นความรู้สำคัญของบันทึกนั้นๆ ฯลฯ
- Gotokhow เมื่อบันทึกบทความแล้ว นอกจากข้อความจะปรากฏใน blog ตัวเองแล้วยังปรากฏใน blog กลางของ gotokhow ด้วย แต่ blogspot ข้อความจะปรากฏเฉพาะใน blog ตัวเองเท่านั้น
- Gotokhow มีผู้คอยดูแลระบบกลาง คอยสร้างความเข้าใจ สร้างแรงจูงใจ สร้างบรรยากาศและมิตรภาพที่งดงามให้แก่สมาชิก แต่ blogspot ไม่มีผู้คอยดูแลระบบ เจ้าของ blog เท่านั้นที่เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงในการตรวจสอบและกลั่นกรอง
- Gotokhow มีการประเมินผลการเขียนบล็อก มีสถิติแสดงจำนวน มีการให้ “รางวัลสุดคะนึง” ประกาศเกียรติคุณแก่ผู้เขียนบล็อกประเภทต่างๆ ทำให้ผู้เขียนบล็อกเกิดกำลังใจ ซึ่งเป็นเหมือนพันธะสัญญาที่จะต้องพัฒนาการเขียนการคิดและการนำความรู้ไปปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้น แต่ blogspot ไม่มีในส่วนนี้
- Gotokhow ไม่สามารถตกแต่ง blog ได้มาก ซึ่งแตกต่างจาก blogspot ซึ่งผู้เขียนสามารถตกแต่ง blog ได้หลากหลาย ทำให้สร้างแรงจูงใจในการทำ blog ได้มากกว่า gotokhow เช่น สามารถเปลี่ยนสกินได้มาก สามารถใส่คลิป เพลง ลูกเล่นต่างๆ ได้เย่อะ ทำให้มีความน่าสนใจมาก ผู้เขียนเองก็สนุกกับการเขียน blog เปิดโอกาสให้เจ้าของ blog ได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ได้เต็มที่

วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

song


Happy Vampires โหลดเพลงแกรมมี่แบบไม่ยั้ง แค่เดือนละ 20 บาท Click ที่นี่เลย

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

ใบงานที่ 13




ประสบการณ์จากการทัศนศึกษาดูงานโครงการพัฒนานักศึกษาประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา“นครศรีธรรมราช-ลาว” 17-22 มกราคม 2553
การได้ไปศึกษาดูงานในครั้งนี้ได้สร้างความประทับใจหลายอย่างซึ่งบางอย่างก็เป็นประสบการณ์ใหม่ ความรู้ใหม่ๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ และประทับใจในมิตรภาพที่มีต่อกันทั้งเพื่อนร่วมเดินทาง และตามสถานที่ต่าง ๆ ที่เดินทางไป


1.ประสบการณ์จากการศึกษาดูงานโรงเรียนอนุบาลหนองคาย กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศตั้งโรงเรียนอนุบาลหนองคาย เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2510 สังกัดกองการศึกษาพิเศษ กรมสามัญศึกษา เดิมตั้งอยู่ที่ ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย มีเนื้อที่ 8 ไร่ เมื่อปี พ.ศ. 2530 ได้ย้ายออกมาตั้งอยู่บริเวณศูนย์ราชการเลขที่ 239 ม.1 บ้านดอนดู่ ต.หนองกอมเกาะ อ.เมือง จ.หนองคาย การศึกษาดูงานโรงเรียนอนุบาลหนองคายครั้งนี้ ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากผู้อำนวยการนายสัมฤทธิ์ เจริญดี และคณะครูที่มาต้อนรับ พวกเราได้รับความรู้ด้านต่างๆ จากโรงเรียนอนุบาลหนองคาย เนื่องจากโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพด้านต่างๆ คือ1. โรงเรียนรางวัลพระราชทานระดับประถมศึกษา2. โรงเรียนผู้นำการเปลี่ยนแปลง3. โรงเรียนต้นแบบการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 25514. โรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาปฐมวัย5. โรงเรียนวิถีพุทธ6. โรงเรียนส่งเสริมสุภาพ7. โรงเรียนดีศรีหนองคายซึ่งในการเข้าเยี่ยมชมในครั้งนี้ผู้บริหารได้มาต้อนรับและทำการบรรยายถึงยุทธวิธีการโรงเรียนให้ประสบความสำเร็จอย่างมีคุณภาพ

2.แนวคิดเกี่ยวกับวัฒนธรรมบริบทของประเทศลาวประเทศลาวเป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตั้งอยู่บนใจกลางของคาบสมุทรอินโดจีนลาวอยู่ในภูมิอากาศเขตร้อน มีลมมรสุมแต่ไม่มีลมพายุ สำหรับเขตภูเขาภาคเหนือ และ เขตเทือกเขา อากาศมีลักษณะกึ่งร้อนกึ่งหนาว อุณหภูมิสะสมเฉลี่ยประจำปีสูงถึง 15-30 องศาเซลเซียส สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมีระบบการปกครองแบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ (ทางการลาวใช้คำว่า ระบอบประชาธิปไตยประชาชน) โดยมีพรรคประชาชนปฏิวัติลาวเป็นองค์กรชี้นำประเทศ ซึ่งพรรคนี้เริ่มมีอำนาจสูงสุดตั้งแต่ลาวเริ่มปกครองในระบอบสังคมนิยมเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2518 ประธานประเทศ (ประธานาธิบดี) ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวคนปัจจุบัน ซึ่งมีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี คือ พลโทจูมมะลี ไซยะสอน (ดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่คณะบริหารงานศูนย์กลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาวอีกตำแหน่งหนึ่ง) ส่วนนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันคือนายบัวสอน บุบผาวันประเทศลาวใช้ภาษาลาวเป็นภาษาราชการทั้งในส่วนของภาษาพูดและระบบการเขียน ส่วนในกลุ่มชาวลาวเทิงและชาวลาวสูงยังคงมีการใช้ภาษาประจำเผ่าของงตนควบคู่กับภาษาลาว ส่วนภาษาต่างประเทศอื่นที่มีการใช้ได้แก่ภาษาฝรั่งเศสซึ่งมีการใช้มาตั้งแต่สมัยอาณานิคม ปัจจุบันยังคงใช้ในวงราชการและการติดต่อค้าขายบ้าง อีกภาษาหนึ่งที่สำคัญคือภาษาอังกฤษซึ่งใช้ในการติดต่อกับต่างประเทศและการค้า ซึ่งนับวันการศึกษาภาษาอังกฤษก็ยิ่งจะขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆสำหรับอัตราการรู้หนังสือของลาวนั้น ประชากรเพศชายรู้หนังสือร้อยละ 67 หญิงร้อยละ 43 เมื่อคิดเฉลี่ยรวมทั้งสองเพศแล้วปรากฏว่าประเทศลาวมีอัตราประชากรที่รู้หนังสือ ร้อยละ 56ชาวลาวส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาทซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ (ร้อยละ 60 ของชาวลาวทั้งหมด) ควบคู่ไปกับลัทธินับถือผีบรรพบุรุษของชนชาติส่วนน้อยในแถบภูเขาสูง ส่วนชาวลาวที่นับถือศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลามมีจำนวนที่ค่อนข้างน้อยมาก โดยศาสนาคริสต์ส่วนมากจะมีผู้นับถือเป็นกลุ่มชาวเวียดนามอพยพและชาวลาวเชื้อสายเวียดนาม ส่วนศาสนาอิสลามพบว่ามีการนับถือในหมู่ชนชาติส่วนน้อยจีนฮ่อที่อาศัยตามชายแดนด้านติดกับประเทศพม่า และมีชุมชนมุสลิมที่มีเชื้อสายเอเชียใต้ และจามในเวียงจันทน์การแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างหนึ่งของลาวคือผู้หญิงจะนุ่งผ้าซิ่น (ผ้าถุง) อาหารของคนลาว ลาวจะทานข้าวเหนียวเป็นหลัก อาหารที่เป็นเอกลักษณ์คือ แจ่ว ส้มตำ ไก่ย่าง เป็นต้น ชีวิตของคนลาวมีส่วนคล้ายคลึงกับประเทศไทยมากแต่ความเจริญก้าวหน้ายังล้าหลังกว่าประเทศไทย คนลาวมีวิถีชีวิตที่ค่อนข้างเรียบง่ายและ คนลาวสามารถใช้ภาษาไทยได้เป็นอย่างดี 3.ดูงานหมู่บ้านงูจงอางได้อะไรบ้างการศึกษาดูงานที่หมู่บ้านงูจงอาง ที่บ้านโคกสง่า ตำบลทรายมูล ได้ร่วมดูการแสดงคนกับงูจงอาจ ซึ่งเป็นการแสดงที่ค่อนข้างอันตรายคนที่ไม่มีประสบการณ์จะลองทำไม่ได้ วิถีชีวิตคนที่นั้นยังเป็นสังคมชนบทอยู่มาก มีการหาสมุนไพรมาขาย และได้รับการต้อนรับที่ดีจากชุมชนที่นั้น4.ดูงานที่จังหวัดเพชรบุรีได้อะไรบ้างการศึกษาดูงานที่จังหวัดเพชรบุรี ณ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ได้เข้าพักบ้านพักและร่วมรับประทานอาหารร่วมกันในตอนเย็นมีการทำกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ตลอดจนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน

ใบงานที่ 12


การใช้งานโปรแกรม SPSS
โปรแกรม SPSS เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่นิยมใช้วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติอีกโปรแกรมหนึ่ง-การเริ่มต้นสู่โปรแกรมเมื่อคลิกที่โปรแกรม SPSS จะเข้าสู่โปรแกรมดังรูป ซึ่งหากมีแฟ้มข้อมูลเดิม จะสามารถเลือกจากหน้าต่างนี้ หากต้องการเริ่มต้นใหม่ ให้คลิก Cancel เพื่อเข้าสู่ส่วนตารางทำงาน หรือที่เรียกว่า Data Editorข้อกำหนดโปรแกรมทั่วไปSPSS แบ่งส่วนที่ใช้ป้อนข้อมูลเป็น sheet 2 ส่วน หรืออาจเรียกเป็น Tab ได้แก่Data View : เป็นส่วนสำหรับใส่ข้อมูล ซึ่งแสดงชื่อตัวแปรเป็น Var ทุกคอลัมน์เมื่อทำการป้อนข้อมูล จะเปลี่ยนเป็น Var00001Var00002 … หากต้องการกำหนดชื่อตัวแปรเป็นอย่างอื่น ให้เลือกที่ Variable View จาก Sheet Tab ส่วนแถวจะอ้างอิงตั้งแต่ 1, 2, 3 ไปเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม หากพบว่าตัวอักษรที่แสดงชื่อตัวแปรหรือแถว มีขนาดเล็กมองไม่สะดวก สามารถเปลี่ยนได้โดยการเลือกเมนู View \ Fonts… เพื่อเลือกชนิดอักษรและขนาดตามต้องการ ( แนะนำให้ใช้ MS San Serif ขนาด 10point)Variable View : เป็นส่วนที่กำหนดลักษณะเฉพาะต่าง ๆ ของตัวแปร ได้แก่ ชื่อตัวแปร ( มีได้ไม่เกิน 8 ตัวอักษรรวมตัวเลข โดยห้ามเว้นช่องว่างหรือวรรค และห้ามมีสัญลักษณ์อื่น ๆ เช่น วงเล็บ เครื่องหมายบวก ลบ คูณ หาร เป็นต้น ) จำนวนทศนิยมความกว้างของคอลัมน์ Label ( ใช้ระบุรายละเอียดของตัวแปรซึ่งจำกัดเพียง 8 ตัวอักษร แต่ Label สามารถพิมพ์ข้อความได้มากกว่า รวมทั้งมีช่องว่างหรือสัญลักษณ์ใด ๆ ได้ ) เป็นต้น•การนำข้อมูลเข้าสู่ Work sheet หรือ Data Editorสำหรับการนำข้อมูลเข้าสู่ Data Editor สามารถทำได้หลายวิธี แต่ 2 วิธีที่นิยม ได้แก่•การเปิดไฟล์จากไฟล์ประเภทอื่นโดยโปรแกรม SPSS สามารถที่จะเปิดไฟล์ได้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไฟล์จากโปรแกรม Excel, Lotus, Sysstat หรือ Dbase สามารถเปิดได้โดยใช้เมนู File \ Open \ Data จากนั้นเลือกชนิดของไฟล์ เลือก Drive และ Folder ให้ถูกต้อง•การป้อนข้อมูลโดยตรงในการป้อนข้อมูล หากต้องการป้อนข้อมูลเข้าอย่างโดยตรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ใน Data Editor สามารถทำการ Copy และ Paste ข้อมูลในลักษณะของ Spread sheet ทั่วไปได้ ทำให้สะดวกต่อการใช้ป้อนข้อมูล•เมนูสำหรับการวิเคราะห์ผลทางสถิติในการวิเคราะห์นั้น จะใช้เมนู Statistics ดังรูป โดยจะมีเมนูย่อยที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางสถิติต่าง ๆ เช่น Descriptive Statistics, Compare Mean, General Linear Model, Correlation หรือ Regression เป็นต้น

วันเสาร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2553

ใบงานที่ 11


สวัสดีปีใหม่คะ อาจารย์ ขอให้อาจารย์มีความสุขมาก ๆ ในวันปีใหม่คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนาทุกประการ ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ประสบความสำเร็จในชีวิตนะคะ
ความคิดเห็นเกี่ยวกับอาจารย์ อาจารย์เป็นคนอัธยาศัยดี เป็นกันเองกับลูกศิษย์คอยช่วยเหลือและแนะนำสิ่งที่ถูกต้องอยู่เสมอมีความรู้ใหม่ ๆ เรื่องใหม่ ๆ มาแชร์กันในห้องเรียนเน้นตัวผู้เรียนเป็นสำคัญ ใจดี เป็นคนที่เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลาพัฒนาตนเองอยู่เสมอ และพร้อมรับฟังความคิดเห็นของบุคคลอื่นอยู่เสมอ
และคิดว่า ในเทอมนี้อาจารย์คงใจดี ให้เกรด A กับนักศึกษาที่ตั้งใจเรียนทุกคนนะคะ



ใบงานที่ 10 ประวัติของตนเอง


ชื่อ นางสาวนิตยา วงศ์สวัสดิ์
ชื่อเล่น นิต
ที่อยู่
11/1หมู่ที่ 2 ตำบลปริกอำเภอ ทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช
สถานที่เกิด
บ้านเลขที่ 11 หมู่ที่ 2 ตำบลปริกอำเภอ ทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราชการศึกษาระดับการศึกษา ประถมศึกษา โรงเรียนบ้านไส่ใหญ่ มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสตรีทุ่งสง ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) โรงเรียนเทคโนโลยีภาคใต้ อุดมศึกษา ปริญญาตรี วิชาเอกการจัดการทั่วไปมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ประกาศนียบัตรวิชาชีพครู มหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราชสถานที่ทำงาน โรงเรียนสุมณฑาศึกษา ตำบลท่ายาง อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครครีธรรมราช

ใบงานครั้งที่ 9 สรุปคุณลักษณะของผู้บริหารมืออาชีพ


ผู้บริหารมืออาชีพ ยังเป็นคำที่ค่อนข้างใหม่สำหรับวงการศึกษาเพิ่มจะเริ่มเป็นที่กล่าวถึงมากขึ้นก็เมื่อมีการปฏิรูปการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ซึ่งในหมวด 7 ได้กำหนดไว้ว่า ทั้งผู้บริหารสถานศึกษา และผู้บริหารการศึกษา ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตามกฎหมายกำหนดแม้จะยังไม่มีใครให้คำจำกัดความไว้ที่ชัดเจนว่าผู้บริหารมืออาชีพทางการศึกษามีลักษณะอย่างไร แต่ในที่นี้หมายถึงผู้บริหารที่เกี่ยวข้องกับการบริหารและจัดการศึกษาทั้งในระดับสถานศึกษาและในระดับเขตพื้นที่การศึกษาคุณลักษณะของผู้บริหารมืออาชีพมีลักษณะเด่น ๆ ดังนี้ 1. การครองตน ผู้บริหารต้องสร้างคุณค่าให้เป้นที่ประจักษ์โดยการสร้างศรัทธา เป็นที่ยกย่องและชื่นชมของบุคคลอื่นโดยมีลักษณะดังนี้1) มีกิริยามารยาทดีและแต่งกายดี2) มีความเป็นผู้ใหญ่ สมำเสมอ คงเส้นคงวา เชื่อถือได้3) ฝักใฝ่หาความรู้ และประสบการณ์เพิ่มเติมอยู่เสมอ4) พูดจาไพเราะต่อบุคคลอื่น5) มีวินัยในตนเอง6) ยึดหลักธรรมคำสอนของศาสนา 2. การครองคน ผู้บริหารต้องสามารถปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติงานร่วมกันจนบรรลุวัตถุประสงค์ อยู่ด้วยกันด้วยความสุขให้ความรัก ความเมตตาต่อกัน เสริมสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันทำตนเป็นแบบอย่างที่ดี โดยมีลักษณะดังนี้1) ประพฤติดี ประพฤติชอบ2) มีความหนักแน่น3) มีความยุติธรรม4) มีอัธยาศัยดี5) ยึดหลักธรรม 3. การครองงาน ผู้บริหารต้งอมีความสามารถในหน้าที่การงานอย่างดีสิ่งที่จะทำให้ผู้บริหารประสบความสำเร็จในการครองงาน1) มีความรอบรู้ ประสบการณ์ ทักษะในการงานของตน2) มีความรับผิดชอบสูง3) มีความคิดสร้างสรรค์ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เตรียมรับกับปัญหา วางแผนที่จะดำเนินงานในอนาคต 4) ยึดหลักธรรมประจำใจ